Back
Featured image of post หลวงปู่วัดปากน้ำ ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติธรรม

หลวงปู่วัดปากน้ำ ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติธรรม

มาศึกษาประวันหลวงพ่อวัดปากน้ำในเรื่องการนั่งสมาธิบรรลุธรรม เรื่องในวันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย 15 ค่ำเดือน 10 ในวันนี้เมื่อ 104 ปีที่แล้ว (ปัจจุบัน พ.ศ.2564) เป็นวันที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี

หลวงปู่วัดปากน้ำ ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติธรรม

เรียบเรียงโดย พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร

“ ฉันเอง 2 คราว ไม่ได้ตายเถอะ นิ่ง พอถึงกำหนดเข้าก็ได้ ไม่ตายเสียที ”

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

ความเพียรควรทำในวันนี้

​ พระธรรมเทศนาของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี ที่ท่านได้เทศนาไว้ในเรื่องหลักการเจริญสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานบทนี้ ได้ชี้ให้เห็นถึงความที่หลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่ทำอะไรทำจริง โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติธรรมทำความเพียรอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัสเทศน์สอนถึงความเพียรในการปฏิบัติธรรม ว่าให้พระภิกษุทั้งหลายเป็นผู้ไม่ประมาท ให้รีบทำความเพียร ดังที่มีพุทธพจน์ปรากฎหลายๆ ที่ อาทิเช่น

“ ความเพียรควรทำในวันนี้ ใครเล่าจะรู้ความตายแม้ในวันพรุ่งนี้

เพราะความผลัดเพี้ยนต่อมัจจุราช ผู้มีเสนาใหญ่ ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย ”

ภัทเทกรัตตสูตร พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๖

​ ซึ่งความเพียรในที่นี้คือ ปธาน 4 คือ ความเพียรที่จะละชั่ว เพียรสำรวมระวังไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้นทั้งกาย วาจา ใจ เพียรทำความดี และเพียรรักษาความดี ซึ่งความเพียรในการทำความดี ที่ถือว่าเป็นความดีสูงสุด ที่มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานมากที่สุด นั่นก็คือ “การปฏิบัติธรรม” หรือการเจริญสมาธิภาวนา ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าสนใจใน มหาโคสิงคสาลวันสูตร ในเรื่องการทำความเพียร ดังนี้

ป่าโคสิงคสาลวัน

​ ในสมัยหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ป่าโคสิงคสาลวัน พร้อมด้วยพระสาวกผู้เถระซึ่งมีชื่อเสียงมากรูป คือ ท่านพระสารีบุตร ท่านพระมหาโมคัลลานะ ท่านพระมหากัสสปพ ท่านพระอนุรุทธ ท่านพระเรวตะ ท่านพระอานนท์ และพระสาวกผู้เถระ ซึ่งมีชื่อเสียงอื่นๆ

04 copy(14)
04 copy(14)

​ พระสาวกทั้งหลายได้ประชุมกันอย่างนี้แล้ว พระสารีบุตรจึงได้ถามพระอานนท์ว่า “ท่านอานนท์ ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร?”

​ ท่านพระอานนท์ตอบว่า “ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้ เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ ฯลฯ ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

​ นั้นพระสารีบุตรก็เข้าไปถามพระเรวตะในทำนองเดียวกัน ท่านพระเรวตะตอบว่า “ภิกษุในพระศาสนานี้ เป็นผู้มีความหลีกเร้น ยินดีแล้วในความหลีกเร้น ประกอบเนืองๆ ซึ่งเจโตสมาธิ ไม่เหินห่างจากฌาณ ประกอบด้วยวิปัสสนา ป่าโคสิงคสาลวันพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

​ จากนั้นพระสารีบุตรก็เข้าไปถามพระอนุรุทธะซึ่งเป็นเลิศทางด้านทิพยจักษุในคำถามเดียวกัน ท่านอนุรุทธตอบว่า “ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้ ย่อมตรวจดูโลกพันหนึ่งด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ป่าโคสิงคสาลวันพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

02 copy(19)
02 copy(19)

​ พระสารีบุตรก็เข้าไปถามพระมหากัสสปะซึ่งเป็นเลิศด้านธุดงควัตรในคำถามเดียวกัน ท่านพระมหากัสสปตอบว่า “ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้ ถือธุดควัตร อยู่ป่าเป็นวัตร ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร บิณฑบาตเป็นวัตร มักน้อยสันโดษ เป็นต้น ป่าโคสิงคสาลวันพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

​ พระสารีบุตรก็เข้าไปถามพระมหาโมคคัลลานะในคำถามเดียวกัน ท่านพระมหาโมคคัลลานะตอบว่า “ท่านสารีบุตร ภิกษุ ๒ รูป ในพระศาสนานี้ กล่าว อภิธรรมกถา ถามกันและกัน ถามปัญหากันแล้ว ย่อมแก้กันเอง ไม่หยุดพักด้วย ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

​ พระมหาโมคคัลานะถึงได้ถามคำถามเดียวกันกับพระสารีบุตร พระสารีบุตรท่านก็ตอบว่า “ภิกษุในพระศาสนานี้ เจริญสมาบัติ เป็นผู้อยู่ด้วยวิหารสมาบัติใดในเวลาเช้า ก็อยู่ด้วยวิหาร สมาบัตินั้นได้ในเวลาเช้า หวังจะอยู่ด้วยวิหารสมาบัติใดในเวลาเที่ยง ก็อยู่ด้วยวิหารสมาบัตินั้นได้ ในเวลาเที่ยง หวังจะอยู่ด้วยวิหารสมาบัติใดในเวลาเย็น ก็อยู่ด้วยวิหารสมาบัตินั้นได้ในเวลาเย็น ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล”

Screen Shot 2564-09-21 at 16.44.47
Screen Shot 2564-09-21 at 16.44.47

​ เมื่อพระเถระทั้งหลายต่างมีคำตอบเป็นของตนเองเช่นนี้ ทั้งหมดจึงได้พากันเข้าไปถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระสารีบุตรเป็นผู้นำ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ ดูกรสารีบุตร คำของพวกเธอทั้งหมด เป็นสุภาษิตโดยปริยาย แต่พวกเธอจงฟังคำของเรา

​ คำถามว่า ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไรนั้น

Screen Shot 2564-09-21 at 16.45.31
Screen Shot 2564-09-21 at 16.45.31

ตอบว่า “ ภิกษุในศาสนานี้ กลับจากบิณฑบาตแล้ว ในเวลาหลังภัตรกิจ นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกาย ให้ตรง ดำรงสติมั่นเฉพาะหน้าว่า จิตของเรายังไม่หมดความถือมั่น ยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะ ทั้งหลายเพียงใด เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้เพียงนั้น ดังนี้ ดูกรสารีบุตร ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงาม ด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล

​ จากพุทธพจน์นี้ แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ทรงสรรเสริญพระภิกษุที่ทำความเพียรอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติธรรมนั่นเอง แล้วครูบาอาจารย์ของเราท่านใดเล่า ที่ทำให้เราเห็นเป็นแบบอย่างในปัจจุบัน โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการเจริญสมาธิภาวนาอย่างพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้า นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

วัดโบสถ์บน บางคูเวียง

15 ค่ำเดือน 10 พ.ศ. 2460 ณ วัดโบสถ์บน บางคูเวียง จ.นนทบุรี

วัดโบสถ์บน บางคูเวียง จ.นนทบุรี สถานที่หลวงปู่เข้าถึงธรรมกาย
วัดโบสถ์บน บางคูเวียง จ.นนทบุรี สถานที่หลวงปู่เข้าถึงธรรมกาย

​ เช้าวันนั้นพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านมีความคิดขึ้นมาว่า

​ “เราบวชมาจวนจะครบ ๑๒ พรรษาแล้ว วิชชาของพระพุทธเจ้าเรายังไม่ได้บรรลุเลย ทั้งที่การศึกษาของเราก็ไม่เคยขาดเลยสักวัน ทั้งคันถธุระและวิปัสนาธุระ อย่าเลย ควรจะรีบกระทำความเพียร ให้รู้เห็นของจริง ในพระพุทธศาสนาเสียที”

​ เมื่อกลับจากบิณฑบาตแล้วท่านก็รีบจัดการภารกิจต่างๆ ให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่มีเรื่องกังวลใจ เสร็จแล้วก็ได้เข้าเจริญภาวนาในพระอุโบสถแต่เพียงผู้เดียว และตั้งใจว่า ถ้ากลองเพลไม่ดังจะไม่ลุกขึ้นจากที่

" เอ…แต่ก่อนเราไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลย พอตั้งสัจจะลงไปว่า ถ้ากลองเพลไม่ดังจะไม่ลุกจากที่ เหตุใดมันจึงเพิ่มความกระวนกระวายใจมากมายอย่างนี้ ผิดกว่าครั้งก่อนๆ ที่นั่งภาวนา เมื่อไรหนอ กลองเพลจึงจะดังสักที "

คิดไปจิตก็ยิ่งแกว่งและซัดส่ายมากขึ้น จนเกือบจะเลิกนั่งหลายครั้ง แต่เมื่อได้ ตั้งสัจจะไปแล้วท่านก็ทนนั่งต่อไป คือท่านนั่งสมาธิโดยคิดว่า “ตายเป็นตาย” ในที่สุดใจของท่านก็หยุดรวมเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ ในใจชุ่มชื่นเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

หลวงปู่สละชีวิต

และในคืนเดี่ยวกันนั้นเอง ในช่วงเย็น หลังจากได้ร่วมลงฟังพระปาฏิโมกข์กับเพื่อนภิกษุ ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถแล้วตั้งสัตยาธิษฐาน

“แม้เลือดเนื้อจะ แห้งเหือดหายไป เหลือแต่หนัง เอ็น กระดูก ก็ตามที ถ้านั่งลงไปแล้ว ไม่บรรลุธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเห็น จะไม่ยอมลุกขึ้นจากที่ จนตลอดชีวิต”

​ และท่านก็ได้บรรลุธรรมเข้าถึงพระธรรมกายภายในในคืนนั้นเอง พระภิกษุเช่น พระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำความเพียร นั่งสมาธิเจริญภาวนา ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ

​ ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเช่นไร ตอบ ภิกษุในศาสนานี้ ก้าวกลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัตร นั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น เฉพาะหน้าว่า จิตของเรายังไม่หมดความถือมั่น ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลสอาสวเพียงใด เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้

ศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ร่วมกันอัญเชิญรูปหล่อทองคำหลวงปู่ เวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อประดิษฐาน ณ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2549
ศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ร่วมกันอัญเชิญรูปหล่อทองคำหลวงปู่ เวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อประดิษฐาน ณ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2549

​ เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปฏิบัติธรรมเช่นนี้ เราเองในฐานะลูกหลานศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ก็ควรเร่งทำความเพียร นั่งสมาธิเจริญภาวนา ให้ได้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน และเป็นการกลั่นใจเราให้ใสๆ รองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ในวันครูวิชชาธรรมกายที่ 19 กันยายน 2556 นี้ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ซึ่งเป็นวันที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเอาชีิวิตเป็นเดิมพันค้นพบวิชชาธรรมกายให้หวนกลับคืนมาใหม่ในปัจจุบัน ฯ

ภาพหลวงปู่เพื่อนึกถึงท่านให้ได้ตลอดเวลา

พระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ  ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย (หลวงพ่อสด) | เสื้อยืด, เสื้อเชิ้ต, คำคมการใช้ชีวิต
พระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย (หลวงพ่อสด) | เสื้อยืด, เสื้อเชิ้ต, คำคมการใช้ชีวิต

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน
อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน

Built with Hugo
Theme Stack designed by Jimmy